“ดื้อครั้งที่หนึ่ง เคยบอกแล้วนะบงซิกว่าห้ามอ้อนคนอื่นนอกจากมาร์คลี”ความอุ่นชื้นไล่วนบริเวณใบหูขาวก่อนที่สันจมูกโด่งไล้วนลงมาที่ซอกคอให้รู้สึกเสียวซ่านจนต้องเกร็งตัว
“ตะแต่นั่นมันแจมินนะ”ลมหายใจขาดห้วงเมื่อปลายลิ้นเรียวเลียวนละเลียนชิมซอกคอของตัวเอง เจโน่แทบเข่าทรุดเมื่อถูกรุกรานอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ใครก็ไม่ได้”เพราะหัวใจดวงนี้และร่างกายบอบบางนี้เป็นของมาร์คลีไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ทั้งนั้น แรงขบกัดและดูดดุนจนเกิดเสียงเรียกให้เจโน่สะดุ้งสุดตัวอยากจะฟาดอีกฝ่ายสักทีเพราะในเมื่อพรุ่งนี้เจโน่มีงานต้องรับผิดชอบหากเกิดรอยแดงขึ้นมางานนี้ได้แย่แน่
“อะ อื้อ มาร์คฮยอง อย่าทำรอยนะ”สุ้มเสียงใสสั่นตะกุกตะกักพอๆกับก้อนเนื้อด้านซ้าย ดวงหน้าน่ารักกึ่งบึ้งตึงและทำตัวไม่ถูกเพราะไม่เคยเจอลีดเดอร์ในโหมดพูดน้อยต่อยหนักเช่นนี้มาก่อน
“กล้าเถียงหรอ ไหนจะอย่ามายุ่งอะไรนั่นอีกบงซิกดื้อนะรู้ตัวมั้ย”ใบหน้าหล่อมีเสน่ห์เหลือร้ายของมาร์คลีแทบกระชากสติให้หลุดไปอีกแบบ ความแข็งกระด้าง คำพูดคำจาห้วนๆอย่างที่ตนไม่เคยได้ยินจากอีกฝ่าย ร้อนวูบวาบยามฝ่ามือหนาลูบตั้งแต่เอวขึ้นมาจนถึงส่วนอ่อนไหว ครางฮือยามสะโพกหนาจงใจกดแนบเน้นย้ำบริเวณไวต่อสัมผัส เคลื่อนไหวปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามด้วยความตั้งใจ ฝ่ามือร้อนลูบไล้ไปมาจนสติเจโน่เริ่มหดหายรู้ตัวอีกทีเมื่อกางเกงนอนและกางเกงชั้นในถูกดึงออกจนร่างกายเปลือยเปล่าแล้ว
“อื้อ มาร์คฮยอง”สัมผัสจูบไล่มาตั้งแต่บริเวณหน้าท้องแบนราบเลื่อนขึ้นมาหยุดที่หน้าอกกระเพื่อมเข้าออกเป็นจังหวะ กดยิ้มมุมปากเมื่อเหลือบเห็นใบหน้าน่ารักในความมืดปรือฉ่ำอย่างน่าหลงไหลราวกับจะออดอ้อนให้โอ๋ให้เอ็นดู เหมือนกันไม่มีผิดทั้งคนทั้งแมว
“อ๊ะ อื้อ”หลุดครางเสียงหลงเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนตวัดรัวบริเวณยอดอกอีกทั้งส่วนแข็งขืนยังทำหน้าที่เสียดสีบริเวณช่องทางอ่อนไหวจนเจโน่ต้องหลบใบหน้าหันไปทางอื่น มาร์คลีอันตรายเกินไป ลมหายใจอุ่นเป่ารดบริเวณปลายจมูกเมื่อใบหน้าหล่อโน้มมาประทับรอยจูบเบาๆ
“ครั้งที่สามใส่เสื้อกล้ามอีก จะให้ทำยังไงดีหืม?”ก้านนิ้วเขี่ยยอดอกนุ่มนิ่มเพียงอึดใจก็แข็งขืนสู้ฝ่ามือพร้อมกับเสียงขอร้องอ้อนวอนให้เลิกรังแกกันเสียที ทั้งที่เจ้าตัวเองก็รู้ว่านี่เพิ่งเริ่มเกมส์ต่างหาก
กดส่วนปลายสัมผัสกับช่องทางสีแดงอ่อน โดยไม่มีการเปิดทางก่อนหน้านี้นี้ พร้อมกับขยับถูไปมารอบบริเวณเพื่อปลุกอารมณ์ของคนตัวเล็กกว่าเสียก่อน ถึงแม้ใจจริงเขาจะแทบทนไม่ไหว อยากจะสอดใส่เข้าไปแล้วโถมกายเข้าออกให้หายอยากแต่ก็ใจแข็งไม่พอเมื่อได้ยินเสียงออดอ้อนว่าเจ็บทั้งที่เพิ่งเข้ามาในตัวอีกฝ่ายได้ไม่นาน เสียงครางดังระงมอยู่บริเวณไหล่กว้างที่เจโน่ใช้มันซุกซบยิ่งทำเอามาร์คลีสอดแกนกายเข้าไปจนสุดแทบปลดปล่อยออกมาเมื่อรู้สึกปวดเพราะความคับแน่น
“อืมมมม”ขบกรามแน่นเพราะแรงบีบรัดบริเวณส่วนปลายต้องกระแทกแกนกายเข้าออกอยู่อย่างนั้นเร่งจังหวะรุกรานเร่งเร้าจนเจโน่แทบไม่ได้สติ ไม่คิดว่าจะรุนแรงมากขนาดนี้
“มาร์คฮยอง อื้ออ ผะ ผมเจ็บ”แม้จะไม่มีเสียงร้องไห้หรือแรงสะอึกสะอื้นแต่สัมผัสได้ถึงน้ำตาเม็ดโตที่หล่นใส่หัวไหล่พร้อมกับน้ำเสียงแหบพร่าสั่นเครือจนร่างกายบอบบางสั่นสะท้านจากแรงกระแทกอย่างน่าสงสาร
อยากขอโทษหากแต่ก็คงทำตอนนี้ไม่ได้จึงขยับตัวจูบบริเวณขมับที่ชื้นไปด้วยเหงื่อปลอบประโลมเด็กน้อยที่มาร์คเองก็ไม่แน่ใจว่ากลัวเค้าไปแล้วหรือเปล่า
ดันร่างเล็กให้นอนราบลงกับพื้นเตียงจัดการฟัดดูดไล้ชิมยอดอกเล็กอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการถูกรุกรานในช่วงล่างก็ดูจะผ่อนคลายขึ้นได้บ้าง เมื่อผนังอ่อนนุ่มด้านในตอดรัดเป็นจังหวะเดียวกับแรงกระแทก
“อืมมม เจโน่อ่าห์ อ่า ซี้ด”เสียงสูดปากพร้อมกับเอ่ยเรียกจนเจ้าของชื่อรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณข้างแก้มไปเสียหมด ร่างสูงที่โถมกายเข้าออกรุนแรงอีกครั้งจนเจโน่ตัวสั่นโยกตามแรงกระแทกก่อนที่จะกระตุกเกร็งตัวปลดปล่อยน้ำรักเต็มช่องทางหลังไหลย้อนไปถึงบริเวณต้นขาพร้อมกับเสียงครางกระเส่าอยู่ข้างบริเวณกกหู
รู้สึกดีแต่ไม่ใช่กับเจโน่ที่ส่วนแข็งขืนยังคงอยู่แบบนั้นไม่ได้รับการปลดปล่อยแม้แต่น้อย ใจร้าย คนนิสัยไม่ดี…
ได้แต่ตัดพ้อในใจพร้อมกับบิดเร้าร่างกายไปมา ไม่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือ แน่ละใครจะยอมเสียฟอร์ม
“เป็นอะไรครับคนเก่ง”น้ำเสียงทุ้มกระซิบเบาๆอยู่ข้างหูพร้อมกับแกล้งหอมแก้มนิ่มไปหนึ่งที ได้รับเสียงฮือตอบกลับคนนิสัยไม่ดีที่พอหายโกรธก็แกล้งกันเหมือนเดิม
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ ฮยองหวง นะ นะเจโน่อ่า”ไม่ชอบเลยที่มาร์คลี เรียกตนด้วยน้ำเสียงอ้อนๆแบบนี้ เพราะทุกครั้งที่ได้ยินเจโน่ก็เหมือนจะใจอ่อนยวบลงตรงนั้นยิ่งแววตาวิบวับที่แกล้งออดอ้อนเหมือนลูกหมาก็ยิ่งเรียกให้เจโน่พยักหน้ารัวๆให้ ฝ่ามือหนากอบกุมส่วนแข็งขืนรูดขึ้นลงจนใบหน้าน่ารักเหยเก นิ้วเรียวเขี่ยบริเวณส่วนปลายปริ่มน้ำก่อนจะกดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
จะมองอะไรนักหนา ไอ่บ้านี่ ขมวดคิ้วมองนัยน์ตาดำขลับที่กำลังเลียริมฝีปากราวกับกระหายลูกแมวน้อยอีกครั้งก่อนจะหยุดการกระทำเสียดื้อๆ
“อยากให้ช่วยก็อ้อนสิครับบงซิก”ก็บอกว่าไม่ใช่บงซิกไงเล่า ใบหน้าน่ารักส่ายไปมาให้กับคนที่ได้คืบจะเอาศอกเมื่อได้ยินประโยคแสนเอาแต่ใจอยากกลั่นแกล้งให้เจโน่ถูกรังแกอีกน่ะสิไม่ว่า ครั้นไม่อาจต้านทานได้เมื่อร่างสูงดันตัวขึ้นคร่อมบีบคลึงส่วนอ่อนไหวและลงลิ้นรัวบริเวณยอดอกอีกครั้งปรนเปรอ
ด้านบนทั้งซ้ายและขวา
ช้อนสายตามองดวงหน้าน่ารักที่เชิดรั้นอย่างคนทำอะไรไม่ถูก และก็สะกดกลั้นเสียงครางระรื่นหูไม่ไหวยามถูกสัมผัสหนักบริเวณส่วนปลายอีกครั้ง ฟันซี่เล็กกัดกลีบปากนุ่มดวงตาเรียวเล็กที่ทอดมองใบหน้าหล่ออย่างยั่วยวนแล้วมาร์คลีก็แทบคลั่งตายเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“อ๊ะ อื้อ มาร์คจ๋าช่วยแม่บงซิกหน่อย เหมี้ยว~”