“อ๊ะ…”เสียงหวานครางลอดผ่านริมฝีปากที่ขบเม้มพร้อมกับโกรธตัวเองในใจที่ทำไมถึงได้เผลอไผลกับการกระทำอันหยาบโลนของคนใจร้ายคนนี้แม้จะพยายามหลีกหนีสัมผัสวาบหวามเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้มาร์คลีอยากเอาชนะมากเท่านั้น
“อื้อออ...อ๊ะ!” รู้สึกถึงแรงผลักของมือบอบบางที่ไหล่กว้าง มาร์คตวัดลิ้นรัวจนแผ่นอกขาวแอ่นรับตามสัญชาตญาณ ลดจังหวะมือข้างที่รูดรั้งแกนกายให้เชื่องช้าลงราวกับอยากทำโทษ ดูดดุนเคล้าคลึงยอดอกด้านซ้ายจนห้อเลือดถึงได้ยอมผละออก
เจโน่รู้สึกเกลียดมาร์คลี เกลียดสัมผัสของคนตรงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นเกลียดตัวเองที่ดันอ่อนโอนทุกอย่าง ยิ่งเห็นรอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นที่มุมปากของร่างสูงสง่านั้นเขาก็ยิ่งหวาดกลัว แต่ท้ายที่สุด เจโน่ก็ต้องยอม…
“ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย ฮึ้ก” ราวกับคนโง่ที่ไม่รู้ว่าถึงจะพูดไปมันก็ไร้ประโยชน์ ร่างเล็กพยายามขยับถอยหนีแต่ไม่รู้เลยว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีมันหายไปไหน ไม่กล้ามองสภาพตัวเองเพราะแค่เห็นฝ่ามือหนานั้นยังจับอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวของตัวเอง และยิ่งก้อนเนื้อที่เต้นรัวอยู่ในอกที่สั่นเทาด้วยความหนักหน่วง
“เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าคำขอร้องของนาย มันเปล่าประโยชน์” โน้มตัวไปกระซิบแผ่วที่กลีบปากบวมซ้ำก่อนจะบดจูบลงไปเบาๆอย่างย่ามใจ ได้ยินเสียงครางหวานปนหอบดังขึ้นมาติดๆยามเขาหันมาเร่งจังหวะมือที่กอบกุมแกนกายขาวเนียนนั่น
“อ๊ะ!...อะ..อืออ” จงใจหยุดขยับฝ่ามือแถมยังปล่อยมันออกจากส่วนอ่อนไหวที่ต้องการการปลดปล่อยนั้น เห็นม่านตากลมใสเคลือบปริ่มไปด้วยน้ำตา ร้องไห้อีกแล้ว จะร้องไห้อะไรนักหนา ร้องไห้เพราะคนตรงหน้าไม่ใช่ ดงฮยอคล่ะสิท่า
เรียวขาขาวถูกจับให้พาดไปตามไหล่กว้าง เจโน่ตัวสั่นน้ำตาไหลด้วยความหวาดหวั่นเมื่อถูกความอุ่นร้อนขยับเข้าครอบครองแกนกายที่กำลังสั่นระริกด้วยแรงอารมณ์ หอบหายใจจนตัวโยน ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาจนสับสน พยายามเอื้อมมือที่สั่นเทาไปผลักคนที่สร้างความปั่นป่วนให้ตนอย่างร้ายกาจ มาร์คลีอันตรายเกินไป
“อ๊ะ...อะ..อ๊า!”
กรีดร้องครวญครางอย่างไม่สามารถควบคุมได้เมื่อรู้สึกถึงปลายลิ้นไล่สัมผัสตั้งแต่โคนจรดปลาย ใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างกายก็กระตุกเกร็งและปล่อยน้ำขาวขุ่นใส่ในตัวอีกคนอย่างแรง พยายามผลักดันให้อีกฝ่ายห่างออกไป
“ตั้งแต่ฉันฝึกให้ ก็เก่งขึ้นเหมือนกันนี่” มาร์คลีคนใจร้าย คนเลว เจโน่เกลียด เกลียดคนตรงหน้าที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น