“อ้ะ ฮ้า ดงฮยอค อื้ม”
“เรียกทำไมหืม?”ได้ยินสุ้มเสียงขึ้นจมูก เอ่ยถามอย่างนั้น คนน่ารักก็ทำได้แต่เพียงส่ายหน้ารัว จะให้อธิบายว่ายังไง ในเมื่อร่างกายมันสั่นสะท้านไปหมด เมื่อถูกปลุกปั้นปั่นป่วนอารมณ์ ยิ่งคนคนนั้นคือดงฮยอคยิ่งรู้สึก หน้าร้อนไปหมดยามช้อนสายตาขึ้นสบกับนัยน์ตาคมคู่นั้น
“อื้อ เรา ฮื้อ”ไม่ไหว ยามได้ยินน้ำเสียงหวานสั่นเครือร้องเรียกอยู่ใกล้ๆ ดงฮยอคคนเจ้าเล่ห์ จึงกดปลายนิ้วเกลี่ยหยอกล้อยอดอกสีอ่อนให้เจ้าของผวาสุดตัว บีบคลึงจนมันชูชันเรียกร้องให้สัมผัสมากกว่านี้ ขยับเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาช่วยประคองใบหน้าขาวจัด จับบังคับอีกฝ่ายมามองหน้ากันไม่ยอมให้หลบตา
“ทำไมไม่ชอบมองหน้ากันเลย”เอ่ยแกล้งทีเล่นทีจริงจนได้ยินเสียงครางหวานตอบกลับมาว่าชอบแกล้งกันทำไมทว่าทันทีที่ส่วนกลางลำตัวถูกฝ่ามือหนาคว้าจับเอาไว้ คนตัวบางก็เหมือนใจจะขาดลงตรงนั้น ช่องทางอ่อนนุ่มที่เคยถูกรุกรานมาแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมากลับถูกก้านนิ้วเรียวแทรกผ่านเข้าไปอีกหน แจมินต้องกระตุกเกร็ง ถอยห่าง อยากขอร้องให้หยุดแต่เมื่อเป็นดงฮยอคโน้มตัวเข้าไปปลอบประโลมคนเสียขวัญให้อยู่นิ่ง เฝ้าจุมพิตกลีบปากสีแดงอ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถึงตนจะไม่ไหวแต่เจ้าของกายสูงใหญ่ก็พร่ำบอกตัวเองว่าให้ใจเย็นๆ ตอนนี้ดงฮยอคไม่ปฏิเสธว่ากำลังรู้สึกดี
“อ๊ะ…ดงฮยอค…ระ เรา อืม เบาๆหน่อย …อ๊าห์!!!”
“ขอโทษ… เจ็บใช่ไหมครับ เจ็บใช่ไหม?” สุ้มเสียงทุ้มต่ำพร่ำพูดไม่หยุดยามสอดใส่แกนกายเข้าไปแทนที่ก้านนิ้วซึ่งถูกใช้เบิกทางเมื่อก่อนหน้านี้ โน้มกายเข้าไปหา กระซิบพูดแนบชิดพร้อมกับฝ่ามือหนาที่เอื้อมเข้าไปลูบดวงหน้าหวาน ไล่ลามไปจนถึงกลุ่มผมนุ่มเพื่อปลอบโยน
“อือ...” ดงฮยอคเองก็ได้แต่สบถด่าตัวเองอยู่ในใจ ยามแจมินส่ายหน้ารัวเพื่อบอกว่าไม่เจ็บ ไม่เป็นอะไร ให้เขาทำต่อไป ทว่าสิ่งที่ม่านตาคมทอดเห็นมันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ดวงตาคู่หวานมีหยาดน้ำไร้สีรื้นคลอ คนตัวเล็กสั่นเทาราวกับลูกนกตัวน้อยๆ ทั้งที่ดงฮยอคพยายามอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
กระซิบแผ่วเพื่อให้คนเป็นภรรยาได้ผ่อนคลาย ไม่เกร็งจนผนังอ่อนนุ่มบีบรัดเค้าจนแทบปลดปล่อยแบบนี้ ใบหน้าน่ารักได้แต่เหยเกเพราะแรงอารมณ์ที่ดงฮยอคกระแทกแกนกายสอดใส่ขยับไปมาอยู่แบบนั้น เวลาที่ร่างกายหลอมรวมเข้าด้วยกันทั้งที่อยากจะเบาแรงแต่เมื่อเสียงครางกลับยิ่งเพิ่มแรงให้ดงฮยอคโถมกายเข้าไปใส่อีกครั้งเร่งจังหวะเนิบนาบให้รุนแรงและหนักหน่วงอย่างห้ามไม่ได้
“อ๊ะ อ๊า อื้อออ ระ เราไม่ไหว ฮ้า”กระแทกแกนกายจนร่างเล็กสั่นคลอนตามไปหมดพร้อมกับขอต่อเวลาอีกนิด แต่นาแจมินไม่ไหวแล้วเสียงกรีดร้องพร้อมกับกระตุกปลดปล่อยออกมาก่อน แต่ดงฮยอค..กลับเร่งเร้าให้ตัวเองตามไปพร้อมกัน เพราะถ้าคนตัวเล็กปล่อยแล้วแปลว่าเวลาต่อจากนี้ อีกฝ่ายต้องเจ็บตัวมากกว่าเดิม
“อืมมม อ่าห์ อีกนิด แจมิน อ่า”หยุดมองม่านกลมใสที่ปรือตามองตัวเองอยู่ก่อน นาแจมินยิ้มหวาน อาจจะไม่ได้ยั่วยวนเหมือนผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามา แต่ก็ทำให้ดงฮยอครู้สึกดีในเวลานี้อย่างบอกไม่ถูก น้ำเสียงหวานที่คอยเอาแต่เจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นเสียงครางอย่างน่ารักน่าเอ็นดู มือเล็กไล้ขึ้นบีบไหล่ดงฮยอคเอาไว้แน่น
“อ๊ะ อื้ออ อื้มมม”จุมพิตเร่าร้อน ริดรอนเรี่ยวแรงให้ร่างเล็กอ่อนระทวยจนแทบลืมความเจ็บปวดก่อนจะยอมปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าในตัวอีกคนจนล้นทะลักไหลย้อนมาที่ขาอ่อน พร้อมกับทาบกายสูงกับคนตัวเล็กที่นอนหายใจหอบด้วยความเหนื่อยจนตัวโยน เลื่อนไปจูบเบาๆที่หน้าผากมนจนแก้วขาวขึ้นสีระเรื่อ
“เหนื่อยมั้ย”มีเพียงใบหน้าน่ารักของแจมินที่ส่ายหัวไปมาเบาๆราวกับอยากบอกให้อีกฝ่ายสบายใจว่าไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าตัวเองจะเจ็บตัวรู้สึกว่าช่วงล่างร้าวไปหมด
“งั้น…ต่ออีกรอบได้ใช่มั้ย?”
*กลับไปเม้นให้หน่อยจ้าที่รัก