วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559

NC #เริ่มต้นด้วยร้ายลงท้ายด้วยรัก HAEMIN

“อ้ะ ฮ้า ดงฮยอค อื้ม”

“เรียกทำไมหืม?”ได้ยินสุ้มเสียงขึ้นจมูก เอ่ยถามอย่างนั้น คนน่ารักก็ทำได้แต่เพียงส่ายหน้ารัว จะให้อธิบายว่ายังไง ในเมื่อร่างกายมันสั่นสะท้านไปหมด เมื่อถูกปลุกปั้นปั่นป่วนอารมณ์ ยิ่งคนคนนั้นคือดงฮยอคยิ่งรู้สึก หน้าร้อนไปหมดยามช้อนสายตาขึ้นสบกับนัยน์ตาคมคู่นั้น
“อื้อ เรา ฮื้อ”ไม่ไหว ยามได้ยินน้ำเสียงหวานสั่นเครือร้องเรียกอยู่ใกล้ๆ ดงฮยอคคนเจ้าเล่ห์ จึงกดปลายนิ้วเกลี่ยหยอกล้อยอดอกสีอ่อนให้เจ้าของผวาสุดตัว บีบคลึงจนมันชูชันเรียกร้องให้สัมผัสมากกว่านี้ ขยับเลื่อนฝ่ามือขึ้นมาช่วยประคองใบหน้าขาวจัด จับบังคับอีกฝ่ายมามองหน้ากันไม่ยอมให้หลบตา

“ทำไมไม่ชอบมองหน้ากันเลย”เอ่ยแกล้งทีเล่นทีจริงจนได้ยินเสียงครางหวานตอบกลับมาว่าชอบแกล้งกันทำไมทว่าทันทีที่ส่วนกลางลำตัวถูกฝ่ามือหนาคว้าจับเอาไว้ คนตัวบางก็เหมือนใจจะขาดลงตรงนั้น ช่องทางอ่อนนุ่มที่เคยถูกรุกรานมาแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมากลับถูกก้านนิ้วเรียวแทรกผ่านเข้าไปอีกหน แจมินต้องกระตุกเกร็ง ถอยห่าง อยากขอร้องให้หยุดแต่เมื่อเป็นดงฮยอคโน้มตัวเข้าไปปลอบประโลมคนเสียขวัญให้อยู่นิ่ง เฝ้าจุมพิตกลีบปากสีแดงอ่อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถึงตนจะไม่ไหวแต่เจ้าของกายสูงใหญ่ก็พร่ำบอกตัวเองว่าให้ใจเย็นๆ ตอนนี้ดงฮยอคไม่ปฏิเสธว่ากำลังรู้สึกดี

อ๊ะดงฮยอคระ เรา อืม เบาๆหน่อย อ๊าห์!!!

ขอโทษ เจ็บใช่ไหมครับ เจ็บใช่ไหม?” สุ้มเสียงทุ้มต่ำพร่ำพูดไม่หยุดยามสอดใส่แกนกายเข้าไปแทนที่ก้านนิ้วซึ่งถูกใช้เบิกทางเมื่อก่อนหน้านี้ โน้มกายเข้าไปหา กระซิบพูดแนบชิดพร้อมกับฝ่ามือหนาที่เอื้อมเข้าไปลูบดวงหน้าหวาน ไล่ลามไปจนถึงกลุ่มผมนุ่มเพื่อปลอบโยน

อือ...” ดงฮยอคเองก็ได้แต่สบถด่าตัวเองอยู่ในใจ ยามแจมินส่ายหน้ารัวเพื่อบอกว่าไม่เจ็บ ไม่เป็นอะไร ให้เขาทำต่อไป ทว่าสิ่งที่ม่านตาคมทอดเห็นมันกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ดวงตาคู่หวานมีหยาดน้ำไร้สีรื้นคลอ คนตัวเล็กสั่นเทาราวกับลูกนกตัวน้อยๆ ทั้งที่ดงฮยอคพยายามอ่อนโยนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

กระซิบแผ่วเพื่อให้คนเป็นภรรยาได้ผ่อนคลาย ไม่เกร็งจนผนังอ่อนนุ่มบีบรัดเค้าจนแทบปลดปล่อยแบบนี้ ใบหน้าน่ารักได้แต่เหยเกเพราะแรงอารมณ์ที่ดงฮยอคกระแทกแกนกายสอดใส่ขยับไปมาอยู่แบบนั้น เวลาที่ร่างกายหลอมรวมเข้าด้วยกันทั้งที่อยากจะเบาแรงแต่เมื่อเสียงครางกลับยิ่งเพิ่มแรงให้ดงฮยอคโถมกายเข้าไปใส่อีกครั้งเร่งจังหวะเนิบนาบให้รุนแรงและหนักหน่วงอย่างห้ามไม่ได้


“อ๊ะ อ๊า อื้อออ ระ เราไม่ไหว ฮ้า”กระแทกแกนกายจนร่างเล็กสั่นคลอนตามไปหมดพร้อมกับขอต่อเวลาอีกนิด แต่นาแจมินไม่ไหวแล้วเสียงกรีดร้องพร้อมกับกระตุกปลดปล่อยออกมาก่อน แต่ดงฮยอค..กลับเร่งเร้าให้ตัวเองตามไปพร้อมกัน เพราะถ้าคนตัวเล็กปล่อยแล้วแปลว่าเวลาต่อจากนี้ อีกฝ่ายต้องเจ็บตัวมากกว่าเดิม

“อืมมม อ่าห์ อีกนิด แจมิน อ่า”หยุดมองม่านกลมใสที่ปรือตามองตัวเองอยู่ก่อน นาแจมินยิ้มหวาน อาจจะไม่ได้ยั่วยวนเหมือนผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามา แต่ก็ทำให้ดงฮยอครู้สึกดีในเวลานี้อย่างบอกไม่ถูก น้ำเสียงหวานที่คอยเอาแต่เจื้อยแจ้วอยู่ใกล้ๆเวลานี้กลับเปลี่ยนเป็นเสียงครางอย่างน่ารักน่าเอ็นดู มือเล็กไล้ขึ้นบีบไหล่ดงฮยอคเอาไว้แน่น

“อ๊ะ อื้ออ อื้มมม”จุมพิตเร่าร้อน ริดรอนเรี่ยวแรงให้ร่างเล็กอ่อนระทวยจนแทบลืมความเจ็บปวดก่อนจะยอมปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพุ่งเข้าในตัวอีกคนจนล้นทะลักไหลย้อนมาที่ขาอ่อน พร้อมกับทาบกายสูงกับคนตัวเล็กที่นอนหายใจหอบด้วยความเหนื่อยจนตัวโยน เลื่อนไปจูบเบาๆที่หน้าผากมนจนแก้วขาวขึ้นสีระเรื่อ 

“เหนื่อยมั้ย”มีเพียงใบหน้าน่ารักของแจมินที่ส่ายหัวไปมาเบาๆราวกับอยากบอกให้อีกฝ่ายสบายใจว่าไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าตัวเองจะเจ็บตัวรู้สึกว่าช่วงล่างร้าวไปหมด


“งั้นต่ออีกรอบได้ใช่มั้ย?”



*กลับไปเม้นให้หน่อยจ้าที่รัก

NC #เริ่มต้นด้วยร้ายลงท้ายด้วยรัก ตอน8 #MARKNO

“อ๊ะ”เสียงหวานครางลอดผ่านริมฝีปากที่ขบเม้มพร้อมกับโกรธตัวเองในใจที่ทำไมถึงได้เผลอไผลกับการกระทำอันหยาบโลนของคนใจร้ายคนนี้แม้จะพยายามหลีกหนีสัมผัสวาบหวามเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้มาร์คลีอยากเอาชนะมากเท่านั้น

อื้อออ...อ๊ะ!” รู้สึกถึงแรงผลักของมือบอบบางที่ไหล่กว้าง มาร์คตวัดลิ้นรัวจนแผ่นอกขาวแอ่นรับตามสัญชาตญาณ ลดจังหวะมือข้างที่รูดรั้งแกนกายให้เชื่องช้าลงราวกับอยากทำโทษ ดูดดุนเคล้าคลึงยอดอกด้านซ้ายจนห้อเลือดถึงได้ยอมผละออก

เจโน่รู้สึกเกลียดมาร์คลี เกลียดสัมผัสของคนตรงหน้า ยิ่งไปกว่านั้นเกลียดตัวเองที่ดันอ่อนโอนทุกอย่าง ยิ่งเห็นรอยยิ้มร้ายกระตุกขึ้นที่มุมปากของร่างสูงสง่านั้นเขาก็ยิ่งหวาดกลัว แต่ท้ายที่สุด เจโน่ก็ต้องยอม

        “ยะ...อย่าทำอะไรผมเลย ฮึ้ก” ราวกับคนโง่ที่ไม่รู้ว่าถึงจะพูดไปมันก็ไร้ประโยชน์ ร่างเล็กพยายามขยับถอยหนีแต่ไม่รู้เลยว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีมันหายไปไหน ไม่กล้ามองสภาพตัวเองเพราะแค่เห็นฝ่ามือหนานั้นยังจับอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวของตัวเอง และยิ่งก้อนเนื้อที่เต้นรัวอยู่ในอกที่สั่นเทาด้วยความหนักหน่วง

        “เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าคำขอร้องของนาย มันเปล่าประโยชน์” โน้มตัวไปกระซิบแผ่วที่กลีบปากบวมซ้ำก่อนจะบดจูบลงไปเบาๆอย่างย่ามใจ ได้ยินเสียงครางหวานปนหอบดังขึ้นมาติดๆยามเขาหันมาเร่งจังหวะมือที่กอบกุมแกนกายขาวเนียนนั่น

        “อ๊ะ!...อะ..อืออ” จงใจหยุดขยับฝ่ามือแถมยังปล่อยมันออกจากส่วนอ่อนไหวที่ต้องการการปลดปล่อยนั้น เห็นม่านตากลมใสเคลือบปริ่มไปด้วยน้ำตา ร้องไห้อีกแล้ว จะร้องไห้อะไรนักหนา ร้องไห้เพราะคนตรงหน้าไม่ใช่ ดงฮยอคล่ะสิท่า

        เรียวขาขาวถูกจับให้พาดไปตามไหล่กว้าง เจโน่ตัวสั่นน้ำตาไหลด้วยความหวาดหวั่นเมื่อถูกความอุ่นร้อนขยับเข้าครอบครองแกนกายที่กำลังสั่นระริกด้วยแรงอารมณ์ หอบหายใจจนตัวโยน ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาจนสับสน พยายามเอื้อมมือที่สั่นเทาไปผลักคนที่สร้างความปั่นป่วนให้ตนอย่างร้ายกาจ มาร์คลีอันตรายเกินไป

        “อ๊ะ...อะ..อ๊า!

กรีดร้องครวญครางอย่างไม่สามารถควบคุมได้เมื่อรู้สึกถึงปลายลิ้นไล่สัมผัสตั้งแต่โคนจรดปลาย ใช้เวลาเพียงไม่นาน ร่างกายก็กระตุกเกร็งและปล่อยน้ำขาวขุ่นใส่ในตัวอีกคนอย่างแรง พยายามผลักดันให้อีกฝ่ายห่างออกไป 

ตั้งแต่ฉันฝึกให้ ก็เก่งขึ้นเหมือนกันนี่” มาร์คลีคนใจร้าย คนเลว เจโน่เกลียด เกลียดคนตรงหน้าที่สุด