SF : พี่น้องแทยง
Paring : JAEMIN x TAEYONG
Hastag : #พี่น้องแทยงแจมยง
“ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ”พร้อมใจกันส่งเสียงกล่าวขอบคุณทีมงานหลังจากโชว์เคสเปิดตัวเด็กหนุ่มไอดอลกลุ่มใหม่18คนในนามNCT
ที่ได้เวลาแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนหลังจากที่สมาชิกในวงก็ทำงานหนักไม่ต่างกัน
การกลับมาอีกครั้งของ นาแจมิน
หนุ่มน้อยวิชลจากยูนิตน้องเล็กผู้หายไปร่วมปีเพราะการรอคอยของแฟนๆอีกทั้งเพราะวิชลของยูนิตได้กลับมาภาพลักษณ์ใหม่ทำให้นาแจมินดูเป็นที่ถูกตาต้องใจและได้รับความนิยม…นั่นรวมไปถึงกับเมมเบอร์ด้วยกันเองด้วย
ไม่ว่าใครต่อใครก็เป็นอันต้องพูดถึงหนุ่มน้อยแจมินกันให้หมด ยกเว้นก็แต่คนคนนั้น
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันทำไม
ลีแทยง ถึงได้ชอบทำตัวห่างเหินกันนัก
โอเคจะยอมรับก็ได้ว่านาแจมินไม่ได้สนิทกับแทยงมากถึงขั้นตัวติดกันตลอดเวลา
เหมือนอย่างจอห์นนี่ฮยอง
โอเคจะยอมรับก็ได้ว่านาแจมินไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวหรือชอบใช้สายตาแทะโลม
เหมือนอย่างที่แจฮยอนฮยองทำ
และโอเคนาแจมินไม่ใช่จองแจฮยอนจึงไม่ถูกหอมแก้มข้อนี้สิเรื่องใหญ่
แต่นั่นมันใช่ประเด็นเมื่อไหร่กัน
ครั้นจะให้บอกว่าน้อยใจเป็นน้องชายที่เอาแต่ใจก็เห็นจะใช่เรื่อง
หากแต่เมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ได้คุย ได้รับกำลังใจ
ได้รับคำแนะนำ คำสั่งสอนดีๆจากลีดเดอร์
แล้วมันก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้
ใจร้ายชะมัดเลยพี่น้องแทยง
เอาเถอะนาแจมินจะไม่คิดไปพยายามคุย
หรือหาเรื่องเรียกร้องความสนใจให้แทยงต้องปวดหัว
เพราะแจมินอยากเป็นน้องชายที่น่ารักของแทยงเสียเมื่อไหร่กัน
“หาอะไรหรอ ให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่ครับ!”ปฏิเสธเสียงแข็ง
พร้อมกับผละกายสูงโปร่งออกจากบริเวณโซฟาภายในห้องพักศิลปิน
นาแจมินคิดว่าตัวเองควรรีบเดินกลับไปขึ้นรถตู้พร้อมกับเจโน่ซะมากกว่ามัวแต่มาหาของไร้สาระนี่แล้วยังต้องเจอแทยงอีกต่างหาก
ทำราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นธาตุอากาศ
ไม่เชิงอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อแทยงในใจ
ไหนบอกบอกว่ารักเมมเบอร์นักหนาไง
อยู่ด้วยกันสองคนเวลานี้แล้วทำไมไม่คิดจะชวนคุยหรือพูดอะไรสักอย่าง
“อ่า...อันนี้หรือเปล่า?”ทันทีที่ยื่นสิ่งของขนาดเล็กมาจ่อตรงหน้าแจมิน
ดวงหน้าน่ารักก็เกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ยิ่งใบหน้าหล่อปนหวานที่กดหัวคิ้วขมวดจ้องมองตนเองอยู่นั้น
ยิ่งแทบอยากจะหดให้ตัวลีบทั้งที่ความจริงคนผิดไม่ใช่แทยงเสียหน่อยเด็กบ้านั่นต่างหาก
“ครับ
ผมกลับก่อนนะ”คว้าวัตถุต้องสงสัยที่อัดไปแน่นไปด้วยน้ำมัน พกไฟแชคอย่างนั้นสินะ
เพราะอยากรีบปกปิดความผิดนาแจมินจึงตัดสินใจหมุนตัวหนีไปอย่างทุกที
เป็นแบบนี้เสมอ
ความอึดอัดระหว่างเรา
แต่สำหรับแจมินมันคือความผิดที่ถูกคนพิเศษจับได้เท่านั้นเอง
“สมน้ำหน้าเราบอกแจมินกี่รอบแล้วว่าไม่ให้สูบบุหรี่
ถ้าแทยงฮยองรู้แล้วก็บอกเมเนเจอร์งานนี้เราไม่ช่วยแน่”ไม่รู้น้ำเสียงจงเกลียดจงชังนั่นหรือเพราะอะไรก็ทำให้แจมินหลุดขำด้วยความเอ็นดูหนึ่งสิ่งที่เจโน่เรียนรู้มาจากพี่น้องแทยงก็คงเป็นความดุแต่ขู่ฟ่อๆเหมือนลูกแมวละมั้ง
หากเพียงหมุนกายสูงออกมาเดินเล่นละแวกหอก็ใช้ชีวิตเป็นนาแจมินผู้ที่ไม่ได้ทำตัวติดกับเจโน่
นาแจมินผู้ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะกับดงฮยอค ไม่ใช่นานะฮยองคนใจดีของใครๆ
เป็นเพียงเด็กผู้ชายนาแจมินที่คิดไม่ตกเรื่องลีแทยง
กระป๋องเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ถูกหยิบยกขึ้นดื่มเพียงรวดเดียวแต่พร่องไปเกือบครึ่งม่านตาโตอีกทั้งใบหน้าหล่อปนหวานเผยให้เห็นแต่ความเฉยชา
แจมินไม่ได้รู้สึกแย่แค่อยากหลบมานั่งสงบจิตสงบใจอยู่ม้านั่งหน้าหอพัก
เป็นประจำที่มีอำไรทำให้รู้สึกกวนใจ
ก็แค่มองผ่าน ไม่ใส่ใจ
แต่กับแจมินไม่ใช่
ยิ่งเป็นแทยงแล้วจะให้ไม่ใส่ใจก็คงเป็นไปไม่ได้
หลับตาลงเพียงเพื่อหวังว่าใบหน้าน่ารักนั่นแวบหายไปจากความคิดบ้างเพียงครึ่งนาทีก็คงดี
ไอ้อาการอึดอัดที่ดูเหมือนจะมีเพียงเค้ากับแทยงเท่านั้น
“แจมิน…”ราวกับฟุ้งซ่านหนักกว่าเดิมเพราะได้ยินน้ำเสียงของคนที่วนอยู่ในความคิดดังสะท้อนเข้ามาเสียได้
ท่าทางไอ้คำว่าคิดถึงจนเป็นบ้า
ก็คงจะจริงอย่างเค้าว่าล่ะสินะไอ้แจมินเอ้ย
“แจมิน พี่นั่งด้วยได้มั้ย?”
“แทยง ฮ..ฮยอง”ก็บอกแล้วว่าให้เรียกพี่แบบนั้นมันไม่ชิน
ได้ยินเสียงบีบกระป๋องเบียร์รีบหลบมันไว้ด้านข้างอีกทั้งก้านนิ้วเรียวที่โยนแท่งนิโคตินให้ร่วงหล่นลงบนพื้นพร้อมกับใช้ส้นรองเท้าเหยียบดับไฟเบาๆ
ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ทันเพราะลีแทยงเห็นหมดแล้วก็ตามเถอะ นึกอีกทีก็ดีเหมือนกันจะได้รู้กันสักทีว่าแจมินคนนี้โตแล้ว
ไม่มีผู้ใดทำลายความเงียบด้วยการเริ่มต้นบทสนทนาอีก
มีก็เพียงใบหน้าหล่อที่เสตามองนั่นนี่ไปเรื่อยหากแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาวางสายตาไว้ที่รุ่นพี่ตัวเล็กข้างๆ
“อึดอัดหรอ?”
“…”
“พี่ทำให้นายอึดอัดใช่มั้ย? ขอโทษนะ”
“เปล่าครับ”พี่ต่างหากแทยงที่อึดอัดกับผม
นัยน์ตาดำขลับกำลังเอื้อนเอ่ยประโยคในใจแต่คนตัวเล็กกว่า แน่ละหน้าขาวๆ ตาปรือๆ
แบบนั้นจะไปรู้เรื่องอะไร
“แต่พี่อยากสนิทกับนายนะ
อยากสนิทกับนายแบบที่สนิทกับเด็กๆพวกนั้นมาร์ค ดงฮยอค อินจุนหรือว่าน้องเจโน่”
อยากสนิทไม่ต่างจากรุ่นน้องคนอื่น?
แบบนั้นนาแจมินไม่อยากสนิทด้วยหรอก
ไม่มีบทสนทนาใดเอื้อนเอ่ยขึ้นมาอีกเพียงแค่สบจ้องใบหน้าหล่อปนหวานลีแทยงก็ชะงักกึก
เรียบเฉยและคล้ายกำลังแผ่รังสีน่ากลัวบางอย่าง
หัวใจเต้นระส่ำเสียจนแทยงกลัวว่าจะทำให้รุ่นน้องที่นั่งข้างๆรับรู้เสียได้
“สูบบุหรี่ด้วยหรอ? เครียดเรื่องอะไรทำไมต้องถึงต้องดื่มเบียร์ล่ะนายยังเด็กอยู่นะถ้าเกิดว่ามีคนมาเห็นจะทำ..”
“เลิกพูดได้หรือยัง”คดีพลิกกลับกลายเป็นจำเลยเสียอย่างนั้น
แทยงพยายามกดใบหน้าลงต่ำหากแต่ทว่าเรียกความสนใจจากรุ่นน้องในวงได้ดีกว่าเดิม
แทยงอาจจะแค่รู้สึกน้อยใจที่สุ้มเสียงแตกหนุ่มนั่นตะโกนสั่งให้หยุดพูดแต่พอนึกอีกทีตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่แจมินก็ไม่เคยก้าวร้าวอย่างนี้
“แจมินที่พี่พูดเพราะว่านายยังเด็กนะแล้วก็อีกอย่าง…”เสียงลมหายใจฟึดฟัดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงยกมือสางกลุ่มผมตัวเล็กอย่างลวกๆก่อนจะสาวเท้าเดินกลับเข้าไปยังพื้นที่ของตนเอง
ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้
จะว่ารุนแรงก็คงไม่ถูกเพราะแจมินไม่ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายทั้งที่ไม่ใช่การตวาดใส่แต่กลับทำให้ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก่อตัวอย่างง่ายดาย
นาแจมินเข้าถึงยากเกินไปแล้วต่างหาก เย็นชา นิ่งเฉย น่ากลัวเสียจนดุดัน มันคงเป็นความรู้สึกยากเกินอธิบาย
ถือวิสาสะเดินตามเข้ามายังห้องส่วนตัวเพื่อคาดหวังว่านาแจมินจะให้คำตอบอะไรได้ดียิ่งกว่าการเดินหนี
“ถ้านายไม่พูดพี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไร
นายเอาแต่ทำตัวแปลกๆไม่อยากใกล้พี่ รังเกียจหรือว่าโกรธอะไรพี่ก็พูดออกมาสิ
เลิกทำนิสัยเด็กแบบนี้สั...อื้อออ”แก้มนุ่มนิ่มถูกฝ่ามือหนาประครองก่อนจะบดเบียดเรียวปากช่วงชิง
รุกล้ำ รุนแรง เร่าร้อนราวกับจะกลั่นแกล้งกันให้ตาย
กอบโกยความหวานโดยเคล้นคลึงกลีบปากอิ่ม
ดูดกลืนเก็บกินพร้อมกับรสชาติแอลกฮอลล์ที่ยังคละคลุ้งไปทั่วโพรงปากเล็ก
แทยงไล้จับไหล่กว้างของคนตัวสูงกว่าเอาไว้แทบไม่ทัน
เร่งเร้าเอาแต่ใจเสียจนตามไม่ทันกว่าจะยอมโอนอ่อนให้ได้พักหายใจก็เล่นเอาเหนื่อยหอบจนตัวโยน
ทอดสบแววตานิ่งที่จ้องมองอยู่ก่อนอย่างคาดเดาไม่ออก
นาแจมินกำลังคิดจะทำอะไรกับหัวใจดวงนี้กันแน่
ก้อนเนื้อด้านซ้ายที่เต้นรัวราวกับท้าทายให้อีกฝ่ายโน้มตัวเข้าไปใกล้
แววตาเคลือบใสสั่นระริกยามสันจมูกโด่งกดลงบนเนื้อข้างแก้มก่อนจะกลับมาย้ำที่กลีบปากบวมเจ่อ
“ถ้าพี่บอกว่าผมเด็กอีกแค่ครั้งเดียว
ผมไม่หยุดแค่จูบแน่”ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่ามือไม้ที่ไร้เรี่ยวแรงก็แทบอ่อนปวกเปียก
รู้สึกตัวอีกทีเมื่อท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดช่วงเอวรั้งเสื้อเชิ้ตลงจนเห็นลาดไหล่ขาว
ไล้สันจมูกโด่งพร้อมกับใบหน้าหล่อปนหวานโน้มเข้าประทับริมฝีปากบนผิวเนื้อเนียนขบเม้มเบาๆจนเกือบจะกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ไหว
ทอดมองแทยงด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกอีกครั้งก็แทยงในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย
ปากบวมเจ่อ
ตัวก็เล็กนิดเดียวแบบนั้น .. พี่น้องแทยงชัดๆ
“พ พอแล้ว!”ขยับกลีบปากสีชมพูเอ่ยพึมพำให้ได้ยิน
เจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานก็กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู
“พอก็ได้แต่พี่ต้องเลิกบอกว่าผมเด็กแล้วก็เลิกทำตัวอึดอัดใส่ผมสักที”เท่านี้หัวใจก็แทบจะเป็นบ้าตายเพราะลีแทยงอยู่แล้ว
หากแต่ต้องให้เมินเฉยใส่กันอีกแจมินคนหนึ่งนั่นแหละที่ต้องเป็นบ้าเข้าให้จริงๆ
“สะ สัญญา”
“ให้ตายเถอะแทยง”ทำไมน่ารักอย่างงี้วะ
ถ้าแจฮยอนไม่อยากได้แจมินคนหนึ่งนี่แหละที่อยากได้
เกลี่ยนิ้วไล่แก้มนุ่มเล่นอย่างสนุกมือพอได้อยู่ใกล้แบบนี้แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าอึดอัดตรงไหน
“เรียกพี่สิ พี่เป็นพี่นะ”
“พี่น้องแทยง?”
“หยุดแกล้งพี่สักที”
“พี่ก็หยุดน่ารักก่อนดิ”
ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างตัวเองด้วยความประหม่า
กดใบหน้าลงซ่อนรอยยิ้มน่ารักเอาไว้พยายามสะบัดกายเล็กให้หลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงเพราะรู้สึกถึงระยะห่างที่ลดลงทุกที
บทจะร้ายก็อันตรายชะมัด
“ปล่อยได้แล้วน่า”ได้ยินเสียงกระซิบข้างใบหูขายวว่าขออีกนิดราวกับสะกดจิตให้โอนอ่อนตาม
ราวกับกำลังหว่านล้อมให้ลูกแมวน้อยติดกับเสือหนุ่มสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆเป่ารดบริเวณซอกคอให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
ทว่ายังไม่ได้ทันได้หาเศษหาเลยเสียงระดมทุบประตูดังลั่น
จนแผ่นหลังเล็กสะเทือนตามไปด้วย
“แทยงฮยอง!!! ไอ้เชี่ยแจมินมึงออกมาเคลียร์กับกูเดี๋ยวนี้เลย!”เสียงตะโกนดังลั่น
แบบไม่ต้องสงสัยผู้ฟังก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนมาใหม่คือใคร
… ฝากไว้ก่อนนะจองแจฮยอน
****ฝากสกรีมได้ในแฮชแทค #พี่น้องแทยงแจมยง เฉพาะกิจมากค่าาาา เยิ้ฟฟฟ ~