วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

SF : พี่น้องแทยง (Special) #HAPPYTAEYONGDAY

SF : พี่น้องแทยงแจมยง(Special)
Paring : JAEMIN x TAEYONG
Hastag : #พี่น้องแทยงแจมยง
Author : เจโน่นูน่า n’her JAEMIN

บ้านทาวน์โฮมขนาดใหญ่สองชั้นอยู่ถัดออกไปแถบบริเวณชานเมืองไม่ใกล้ไม่ไกลมากนักเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวใหญ่ สวนดอกไม้หลังบ้านถูกประดับไปด้วยกุหลาบสีชมพูอ่อนที่คุณแม่ชอบ หากแต่บริเวณด้านหลังบ้านกลับโล่งกว้าง
เหมือนเป็นลานประลองอะไรสักอย่างหนีไม่พ้นเป็นคุณพ่อสร้างไว้ให้
เจ้าลูกชายตัวดีสองคนที่นึกแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวให้อย่างปลงตกครั้นเติบโตมาด้วยกัน

จนเป็นหนุ่มขนาดนี้พี่น้องสองคนก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะลงรอยกันเมื่อไร 
เผลอเมื่อไหร่เป็นได้ทะเลาะให้ต้องห้ามปรามเสียจนเหนื่อยอ่อน 

ทั้งแจใหญ่และแจเล็ก เสียงย่ำฝีเท้าตึงตังลงมาจากชั้นบนของบ้านก่อนจะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายอย่างที่คาด

“ไอ้แจมินมึงจะหนีไปไหนมานี่!”ถ้าวันนี้ไม่ได้เตะไอ้บ้านี่ก็อย่าหวัง
ว่าแจฮยอนจะอารมณ์ดีเลย

“อย่าเข้ามานะเว้ย”ร่างสูงในวัยแตกเนื้อหนุ่มกำลังวิ่งมาหลบหลังคุณแม่คนสวยก่อนจะวาดรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อปนหวานส่งผลให้คนเป็นพี่แทบคลั่ง 
มึงจะเล่นใช่มั้ยไอ้แจเล็ก

“อะไรเนี่ยสองพี่น้องทะเลาะกันเป็นเด็กๆอีกแล้วนะ”ส่งเสียงห้ามปรามทายาททั้งคู่
ที่คนน้องถือวิสาสะเอากายเล็กของคุณแม่เป็นเกราะกำบัง
“ไอ้แจมินมึง!

“แจใหญ่อย่าพูดคำหยาบกับน้องแม่บอกกี่ครั้งแล้ว”
“หว่ายยยย ไอ้ลูกแม่ไม่รัก”หัวเราะด้วยน้ำเสียงทะเล้นตามนิสัยทั้งที่กำลังแอบหยิบหนาแย่งขนมหวานในมือคุณแม่เข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆเห็นอย่างนี้ในสายตาคุณแม่
ก็อยากจะบีบแก้มเพราะน่าเอ็นดูดีอยู่หรอก แต่กับแจใหญ่มันไม่ใช่!
“พี่แจเล็กก็ไปแกล้งพี่เค้าน่ะครับลูก แล้วนี่จะกลับไปคอนโดตอนไหนใกล้เปิดเทอมแล้วใช่มั้ยคะ”

หันกลับมาเจอใบหน้าหล่อปนหวานของลูกชายที่เต็มไปด้วยเศษขนมปังเลอะเทอะเสียจนต้องช่วยปาดเศษขนมออกให้ได้เอ่ยปากแซวพี่แจเล็กว่ายังทำตัวเป็นเด็ก
แบบนี้จะมีแฟนกับเค้าบ้างหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยได้แต่ลอบอมยิ้มยามสันจมูกโด่งของลูกชายคนเล็กกดลงบนเนื้อข้างแก้มอย่างออดอ้อนมันน่านักมั้ยเจ้าตัวดี

“แม่ครับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมแม่ไม่บอกผมอะ แม่บอกมันคนเดียวได้ไง”นึกแล้วก็หันกลับมามองคุณแม่อย่างโยนความผิด ไม่รู้ล่ะแจเล็กกำลังไม่พอใจโคตรๆ
“เรื่องอะไรครับคนเก่ง”
“พี่แทยงจะกลับมา”ก็นี่แหละที่พี่น้องแจได้ทะเลาะเสียงตึงตังกันเมื่อกี๊เพราะน้องชายตัวดีดันไปเห็นข้อความจากโทรศัพท์ของไอ้แจใหญ่นี่แหละ แจมินถึงได้หงุดหงิดอยู่อย่างนี้
“คุณแม่กะจะบอกพี่แจเล็กพอดีเลยครับ แต่อยากพามาเซอร์ไพร์สพี่แจเล็กมากกว่า”แก้ต่างไปตามประสาแม่เมื่อเห็นว่าลูกชายกำลังอารมณ์ไม่ดี 

แต่ก็อย่างว่าพอเป็นพี่แทยงล่ะก็มีผลต่อแจมินทุกอย่างนั่นแหละ ครั้นยังจำได้ว่าตอนที่พี่แทยงไปเรียนต่างประเทศเจ้าลูกชายก็หงุดหงิดจนแทบพังบ้านครั้นกลับมาคราวนี้มีหรอที่แจเล็กจะอยู่เฉย 
เสียงข้อความเตือนผ่านเครื่องมือสื่อสารของแจฮยอนเพียงครั้งเดียวว่า
คืนนี้ขอไปนอนด้วยก็เล่นเอาพี่น้องแจตวัดสายตาสบมองกันในทันที

ราวกับรู้ใจกันมาก ราวกับรู้จักกันดี 
แน่นอนล่ะแบบนี้เค้าถึงเรียกว่าเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ


“ผมไปก่อนนะครับคนสวย”วิ่งตึงตังลงมาพร้อมกับกระเป๋าเป้อีกครั้งทั้งที่ในมือยังถือกุญแจสีดำแจมินยังคงทำหน้าที่เป็นลูกชายคนเล็ก ขี้อ้อน ทะเล้นน่ารัก
โดยการกอดหอมแก้มคุณแม่อีกครั้ง ไม่รู้ว่าไอ้ท่าทางกดยิ้มมุมปาก เจ้าเล่ห์ 
เจ้าชู้เสียจนน่าหยิกแบบนี้ไปได้มาจากใคร

รีบกล่าวลาก่อนจะออกไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ได้ยินน้ำเสียงเป็นห่วงลอดสวนกระแสเสียงเครื่องยนต์มาว่าอย่าขับรถเร็วนักมันอันตรายส่วนคนเป็นพี่ที่เดินตามลงมาแอบคร้านในใจอยู่เนืองๆรีบขนาดนั้นมันคงจะขับช้าให้แม่อยู่หรอก

“ยังไงเรา ไม่รีบตามไปหรอคะพี่แจใหญ่?”
“แต้มนำนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ”ปิดท้ายด้วยการเดินควงกุญแจรถยนต์จนคุณแม่หลุดขำด้วยความเอ็นดู ให้มันจริงเถอะที่ปล่อยให้น้องแต้มนำไม่ได้คิดจะทำอะไรแผลงๆอย่างที่เคยเป็นมา


         กายสูงโปร่งขยับเท้าก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูไม้สีขาวแถมยังติดลังเลกว่าปกติแจมินกำลังรู้สึกประหม่ามากเหมือนที่รีบร้อนขี่รถมาเมื่อกี๊ไม่เคยเกิดขึ้น อาการตีรวนที่ก้อนเนื้อด้านซ้ายรุนแรงอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อได้ยินเสียงตึงตังจากภายในคอนโดมิเนียมของตนเองพี่น้องแทยงกลับมาแล้ว

ประตูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าของห้องตัวจริงพร้อมกับก้าวเท้าเดินเข้าไป บรรยากาศรอบข้างเงียบสนิททันทีที่แผ่นหลังเล็กของใครบางคนหมุนตัวกลับมาก็ราวกับว่าโลกของแจมินหยุดหมุนชั่วขณะ

ทอดมองใบหน้าน่าขาวติดน่ารักก่อนจะกางแขนออกเพื่อให้อีกฝ่ายเดินมากอดและแน่นอนแจมินทำได้ แทยงชะงักนิ่งไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะโผตัวเข้าสู่อ้อมกอดจนใบหน้าหล่อปนหวานกลั้นยิ้มแทบไม่ไหว อยากจะเอาเปรียบด้วยการจับมาปล้นจูบให้ได้ขาดใจเสียในตอนนี้

“คิดถึงครับ”โน้มตัวเข้าไปกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูแทบอยากจะกดสันจมูกลงบนเนื้อข้างแก้มให้มันรู้แล้วรู้รอดให้ตายเถอะ ทำไมน่ารักขนาดนี้วะ

“เจ้าชู้อีกแล้วนะแจเล็ก”เอ่ยสุ้มเสียงใสขึ้นก่อนก่อนจะผละให้คนที่อยู่ตรงหน้าทิ้งระยะห่างมากขึ้นหน่อยหลบเลี่ยงสายตาด้วยการหันกลับไปสนใจกระเป๋าเดินทางของตัวเองก่อนจะเอ่ยทักทายตามประสา

แฟนแอบๆโอเคแจมินจะเข้าใจไปแบบนั้นตนเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าอยากจะยอมรับไอ้สถานะนี้เสียเท่าไร อาจจะเป็นเพราะห่างไกลกันเป็นปี กิจวัตรประจำวันที่แตกต่าง ระยะทางและเวลาทำให้เราห่างกันไปมากแต่แจมินก็คือแจมินคนที่เอาแต่คิดถึงพี่น้องแทยงพอรู้ว่าจะได้เจอก็ดีใจจนแทบปิดไม่มิด

“คิดถึงพี่น้องแทยง”พูดเองก็กลั้นยิ้มเองส่งผลให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆลอบหัวเราะตามไปด้วยใบหน้าหล่อปนหวานที่ทั้งหล่อทั้งน่ารักแจมินในวัย19ที่ไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะเติบโตเป็นหนุ่มมากขนาดนี้แล้ว
ยิ่งทำให้รู้สึกขัดเขินกับคำว่าคิดถึงอยู่ไม่มากก็น้อยล่ะ

“ผมคิดถึงจริงๆนะ”เขยิบกายสูงโปร่งให้เข้าไปประชิดเสียจนดวงตากลมโตเหลือกด้วยความตกใจกดใบหน้าน่ารักลงต่ำตั้งท่าจะถอยกลับไปตั้งหลักเสียก่อนหากแต่ลอบมองรอยยิ้มร้ายกาจที่โน้มลงมาแทบติดหน้าผากจนเกือบจะเลื่อนสันจมูกโด่งเข้ามาแตะปลายจมูก แต่ทว่า

“ไอ้แจมิน”น้ำเสียงเย็นเยียบคุ้นหูเอ่ยขัดบรรยากาศขึ้นเสียงดังก็จะใครเสียอีกไอ้แจฮยอน!ผละตัวออกมามองหน้าคนเป็นพี่ชายด้วยสีหน้านิ่งเมื่อเห็นกายเล็กของคนที่นั่งข้างกุลีกุจอเข้าไปหาแอบเห็นว่ามันกดยิ้มมุมปากใส่อย่างเป็นต่อเสียด้วย

เดี๋ยวมึงเจอกู! ขบเคี้ยวฟันจนสันกรามนูนเด่นอย่างเห็นได้ชัด ไอ้ท่าทางสนิทสนมนั้นมันน่าหงุดหงิดต่างหากทีกับเค้าพี่น้องแทยงไม่เห็นจะมีอาการอย่างนั้นเสียเมื่อไร
ปล่อยให้คนที่มาใหม่ในฐานะแขกจัดการสัมภาระและพักผ่อนอย่างเป็นกันเอง 

ดูจะเป็นกันเองมากเกินไปหน่อยในสายตาแจเล็กที่พี่น้องแทยงของเค้า(?)เอาแต่ตัวติดกับแจฮยอนมากเสียจนลืมไปด้วยซ้ำว่ายังมีแจมินอีกคนที่อยู่ในห้องนี้ 

นึกรำคาญคนเป็นพี่เสียได้ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่ก็อยากจะถีบมันให้ออกจากห้องนี้เสียที เดี๋ยวพี่น้องแทยงอย่างนั้น เดี๋ยวพี่น้องแทยงอย่างนี้ ถ้ามันทำให้แจเล็กหมดความอดทนเมื่อไรหน้าหล่อของมันได้ยับเยินเข้าให้จริงๆแน่

“แล้วแจฮยอนจะกลับมาทานข้าวด้วยกันหรือเปล่า?”
“อยากครับ”หันควับทันทีที่ได้ยินรูปประโยคสองแง่งสองง่ามที่แจเล็กคิดไปเองว่าสองแง่สองง่ามจน แววตาขุ่นเคืองสบจ้องมองแจฮยอนอย่างเอาเรื่อง 
นี่มึงจะงัดกับกูจริงๆใช่มั้ยไอ้แจใหญ่
“แต่วันนี้ผมซ้อมดนตรีเลิกดึกเลย น่าเสียดายจังครับ อยากกิน
อาหารฝีมือพี่แทยง”ลอบยักคิ้วเมื่อถูกฟาดลงบนหัวไหล่กว้างอย่างไม่จริงจังนักก็ไอ้ท่าทางหงุดหงิดของแจมินแบบนั้นมันยิ่งทำให้แจฮยอนได้ใจ

เมื่อเห็นว่าพี่ชายก้าวเท้าออกจากบริเวณพื้นที่คอนโดมิเนียมไปฝ่ามือหนาก็รีบหมุนล้อคกุญแจในทันที มื้ออาหารเย็นผ่านไปด้วยความเรียบง่าย เรียบง่ายตรงที่ออดอ้อนให้พี่แทยงป้อนแล้วป้อนอีกทั้งที่อิ่มจะตายอยู่แล้ว ขออ้อนหน่อยเถอะ

ก็เล่นหายไปเป็นปีให้คิดถึงแทบตายขนาดนี้หลังจากขอตัวไปอาบน้ำเพราะเหนื่อยจากนั่งเครื่องมาทั้งวันก็ยังอุส่าห์มาจัดการทำความสะอาดห้องให้แอบบ่นตามประสาคนรักสะอาดว่าสองพี่น้องอยู่กันอย่างไรข้าวของถึงได้กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบอย่างนี้ เหลือบไปเห็นแผ่นหลังกว้างยืนอยู่ตรงระเบียงพร้อมกับพ่นเขม่าควันสีน้ำเงินเทาพร้อมกับเหม่อมองแสงไฟยามค่ำคืน

“โอ้ย!พี่แทยงผมเจ็บนะครับ”สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกฟาดเข้าบริเวณต้นแขนอย่างเต็มแรงได้แต่บ่นพึมพำว่าอีกฝ่ายมือหนักชะมัดรีบหันไปบี้ก้นบุหรี่ก่อนจะทิ้งลงแถวนั้นพร้อมกับหันมาทำหน้าตาออดอ้อนมันน่าตีซ้ำให้หลาบจำน้อยเสียเมื่อไร

“สูบบุหรี่ด้วยหรอ พี่ไม่เห็นรู้เลย”ก็แจเล็กไม่ได้บอกนี่นาลอบเถียงในใจยามเห็นใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูขู่ฟ่อๆราวกับลูกแมว ก็เพราะน่ารักอย่างนี้น่ะสิเจ้าชู้ประตูดินอย่างแจมินถึงได้หนีไปไหนไม่รอดสักที

สร้างความเคลื่อนไหวก้าวเท้าเข้าประชิดซึ่งแทยงก็ให้ความร่วมมือรีบถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างทันที
“อย่ามาใกล้ เหม็นบุหรี่อ่ะแจมินนิสัยเสียจริงๆเลยนะ”ยิ่งบ่นกระปอดกระแปดยิ่งถดถอยก็ยิ่งดูเหมือนจะถอยไปให้จนมุมต่างหาก เม้มกลีบปากสีชมพูอ่อนยามถูกสบจ้องด้วยใบหน้าหล่อปนหวานที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆฝ่ามือหนาของเด็กหนุ่มกำลังถือวิสาสะสอดเข้ามาใต้ชายเสื้อยืดโน้มตัวลงมาให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน

ก่อนจะประทับรอยจูบลงเบาๆกลิ่นมิ้นท์หอมนุ่มจากบุหรี่ราคาแพงได้ยินเสียงครางอื้ออึงในลำคอแน่นอนว่าเจ้าของเสียงคือคนตัวขาวที่อยู่ตรงหน้าแจมิน 
เพราะเป็นเด็กผู้ชายจึงไม่ยอมเสียหน้าสอดพันเกี่ยวปลายลิ้นดูดกลืนเก็บกินความหอมหวานกวาดต้อนราวกับหยอกเย้าลูกแมวน้อยในอ้อมแขนแผ่นหลังแคบถูกดันให้แนบติดไปกับกระจกบานใหญ่

ม่านตากลมโตเหลือบมองใบหน้าหล่อปนหวานที่บดเบียดกลีบเนื้อนุ่มให้ร้อนแรงจนแทบหายใจไม่ทันผละออกอย่างจำยอมยามฝ่ามือเล็กทุบแผงอกกว้างดังปั่กกระตุกยิ้มบางยามไล้สันจมูกผ่านเนื้อข้างแก้มเมื่อเห็นว่าดวงตากลมของแทยงสั่นระริกยิ่งได้ใจยามที่เอ่ยว่าให้หยุดแกล้งกันได้แล้วช้อนมองกันอย่างหากทางออกว่า

คนเก่งอย่างแทยงจะรับแจมินในวัยหนุ่มได้อย่างไรไม่มีทาง

ไล้ฝ่ามือไปตามส่วนเว้าโค้งอย่างช้าๆทั้งที่เป็นผู้ชายแต่ตัวเล็กเสียจนอยากจับกอดให้จมเข้ากับแผงอกตนเองเสียแน่นๆ เลื่อนใบหน้าหล่อมาคลอเคลียซอกคอขาวเนียนประทับริมฝีปากแผ่วเบาด้วยความทะนุถนอมปล่อยให้คนถูกกระทำเริ่มโอนอ่อนเสียจนทนแทบไม่ไหว

“อื้อ แจ แจเล็ก ฮื่อ~”ส่งเสียงร้องห้ามปรามว่าไม่ได้ ไม่ได้ทั้งที่ตนเองก็ไม่แทบยอมแพ้เล่ห์เหลี่ยมเจ้าชู้แพรวพราวของคนอายุน้อยกว่าอย่างแจเล็กได้เมื่อไหร่กัน
“ไม่ได้.. อื้อ แจมินตรงนี้ไม่ได้”เอ่ยปากอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเสียจนน่ารักน่าเอ็นดูไปหมดแล้วอย่างนี้มีหรือแจมินจะไม่ยอมผละกายสูงที่กำลังเล้าโลมอยู่ตระกองกอดอุ้มฟัดเนื้อนิ่มอย่างแก้มอย่างไม่สนใจกำปั้นที่ทุบแผงอกพลางกร่นด่าว่าถูกเอาเปรียบอยู่กรายๆกว่าจะพามาถึงเตียงได้ก็เล่นเอาเหนื่อยพอตัว 

คนอายุมากกว่าเองก็รู้ว่าควรตอบสนองเล่นลิ้นกับเด็กหนุ่มอย่างไรกระชับแรงกอดบริเวณเอวเล็กหอบหายในจนตัวโยนยามถูกดูดดุนบริเวณหน้าท้องขาวผละใบหน้ามองอีกฝ่ายด้วยความร้อนแรง

เอาให้ตายเถอะ แจมินในวัย19มันเร่าร้อนเป็นบ้า

“แทยง..”ทอดมองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยพอใจนักก็เคยบอกไว้แล้วว่าแทยงโตกว่าก็ต้องเรียกพี่สิ

“พี่น้องแทยงพี่น้องแทยงครับ”มือน้อยจับหัวไหล่กว้างเอาไว้แน่นยามที่ถูกจู่โจมด้วยจุมพิตร้ายกาจบริเวณใบหูและกำลังไล่มายังซอกคอ อันตรายชะมัด

“อื้อ แจมิน”
“ผมคิดถึง”
“รู้แล้วน่า”ถึงกับกระตุกเกร็งกะทันหันยามนิ้วเรียวเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เลื่อนผ่านหน้าอกเบาๆสร้างความวาบหวาบพลุ่งพล่านเสียจนคนใต้ร่างอย่างแทยงแทบสะกดกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ไหว ดูเก่งและเชี่ยวชาญเสียจนไม่รู้ว่าไปแอบฝึกกับใครมาบ้างเพราะถึงไปแอบทำอย่างนั้นมาจริงๆต่อไปนี้แทยงก็คงไม่ยอมหรอก

“แทยง”
“หื้อ?”
“ต่อไปนี้ผมไม่ให้ไปไหนแล้วนะ”ถึงอยากไปก็ไม่มีทางจะยอมให้ครอบครองตั้งแต่ร่างกายไปจนถึงหัวใจของแจเล็กคนนี้เลย





---- NC= No Children -----

ชายเสื้อยืดตัวบางถูกดึงขึ้นทันทีเมื่อแจมินรู้ว่ามันกำลังขัดขวางการแตะปลายลิ้นลงบนยอดอกเล็ก หัวกลมส่ายรัวๆเมื่อถูกรังแกโดยเด็กหนุ่มรุ่นน้องเผลอส่งเสียงร้องครางอย่างกลั้นไม่ไหวเมื่อการกระทำอันหยาบโลนกำลังปลุกปลั่นห้วงอารมณ์ให้รุนแรงมากเพิ่มขึ้น แทยงกำลังรู้สึกว่าแก้มร้อนฉ่าอันที่จริงมันเร่าร้อนไปทั้งร่างเสียมากกว่า 

“อ๊ะ อะ อื้ออ แจ แจเล็ก”หอบหายใจจนตัวโยนเมื่อใบหน้าหล่อกลั่นแกล้งดูดดุนตวัดลิ้นลงบนยอดอกรัวๆอีกครั้งแทบคลั่งยามที่ถูกรูดรั้งด้วยฝ่ามือหนาจนต้องกัดปากยั่วยวนอย่างไม่ตั้งใจ.. ไม่ตั้งใจจริงหรือเปล่าแจมินก็ไม่อาจรู้ได้เพราะคนที่แทบคลั่งตายในยามนี้กลับกลายเป็นแจมินเสียมากกว่า

“พี่น้องแทยงช่วยผม..ให้หายคิดถึงพี่ได้มั้ย?”แทยงไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาเกินกว่าจะไม่รู้ว่าแจมินกำลังต้องการอะไร ยิ่งใบหน้าหล่อปนหวานที่ทอดมองแทยง
ด้วยความเร่งเร้านั่นแล้วละก็มีเพียงการพยักหน้าเป็นคำตอบ

ก่อนจะรั้งชั้นในตัวเองให้ร่นลงมาใต้สะโพกใช้เรี่ยวแรงที่ลงเหลืออยู่น้อยนิดดันแผงอกกว้างให้เป็นฝ่ายเอนตัวลงนอนแทนก่อนจะถือวิสาสะขึ้นคร่อมร่างเด็กหนุ่มเอาไว้เสียเอง ความแข็งขืนขนาดใหญ่ในวัยแตกเนื้อหนุ่มกำลังทำให้แทยงหวาดหวั่น นี่เค้ากำลังถูกแจเล็กแกล้งหรือเปล่า 

ครางแผ่วเบายามที่ดันสะโพกตัวเองทิ้งน้ำหนักลงบนตัวแจมินครั้นอีกฝ่ายก็ยังใจดียอมช่วยประครองเอาไว้ ขยับสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะตอบรับได้อย่างดีครั้งแล้วครั้งเล่าจนแจมินแทบไม่ไหวยิ่งยามเมื่อได้ยินเสียงครางหวานหูไปพร้อมกับการช่วยตัวเองของแทยง ขบสันกรามแน่นเมื่อจังหวะขึ้นลงนั่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

แต่คนอย่างแจมิน ไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่จับพลิกกายเล็กให้กลับมาอยู่ในท่าเดิมพร้อมกับสอดส่วนแข็งขืนเข้าทางด้านหลังอย่างเต็มแรงโดยไม่ทันให้แทยงตั้งตัว
"อ๊า แจ แจมิน”งับเข้าที่ปากนุ่มนิ่มทันทีที่ใบหน้าน่ารักนิ่วหน้าก่อนจะส่งเสียงครางแทบไม่ได้ศัพท์

เพราะการเร่งจังหวะรุกราน รุนแรง เร่งเร้า เร่าร้อนจนแทบหลอมละลาย 

ผนังด้านในตอดรัดเสียจนแจมินต้องพยายามข่มอารมณ์ด้วยการสูดหายใจเข้าออก กดย้ำเข้าไปยังจุดเดิมอยู่หลายครั้งเมื่อเห็นกายเล็กสั่นสะท้านยิ่งร้อนแรงและเร่งขึ้นเรื่อยๆจนกระตุกตัวเกร็งก่อนจะโถมกายสูงทาบลงบนตัวอีกคนอย่างเต็มแรง

“อื้อ แจมิน อ่าห์”
“ยังไม่หายคิดถึงเลยครับพี่น้องแทยง”

#พี่น้องแทยงแจมยง



วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

OS : พี่น้องแทยง (JAEMIN x TAEYONG)

SF : พี่น้องแทยง
Paring : JAEMIN x TAEYONG
Hastag : #พี่น้องแทยงแจมยง


“ขอบคุณที่ทำงานหนักนะครับ”พร้อมใจกันส่งเสียงกล่าวขอบคุณทีมงานหลังจากโชว์เคสเปิดตัวเด็กหนุ่มไอดอลกลุ่มใหม่18คนในนามNCT ที่ได้เวลาแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนหลังจากที่สมาชิกในวงก็ทำงานหนักไม่ต่างกัน

การกลับมาอีกครั้งของ นาแจมิน หนุ่มน้อยวิชลจากยูนิตน้องเล็กผู้หายไปร่วมปีเพราะการรอคอยของแฟนๆอีกทั้งเพราะวิชลของยูนิตได้กลับมาภาพลักษณ์ใหม่ทำให้นาแจมินดูเป็นที่ถูกตาต้องใจและได้รับความนิยมนั่นรวมไปถึงกับเมมเบอร์ด้วยกันเองด้วย 
ไม่ว่าใครต่อใครก็เป็นอันต้องพูดถึงหนุ่มน้อยแจมินกันให้หมด ยกเว้นก็แต่คนคนนั้น


ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันทำไม ลีแทยง ถึงได้ชอบทำตัวห่างเหินกันนัก

โอเคจะยอมรับก็ได้ว่านาแจมินไม่ได้สนิทกับแทยงมากถึงขั้นตัวติดกันตลอดเวลา
เหมือนอย่างจอห์นนี่ฮยอง

โอเคจะยอมรับก็ได้ว่านาแจมินไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวหรือชอบใช้สายตาแทะโลม
เหมือนอย่างที่แจฮยอนฮยองทำ

และโอเคนาแจมินไม่ใช่จองแจฮยอนจึงไม่ถูกหอมแก้มข้อนี้สิเรื่องใหญ่
แต่นั่นมันใช่ประเด็นเมื่อไหร่กัน


ครั้นจะให้บอกว่าน้อยใจเป็นน้องชายที่เอาแต่ใจก็เห็นจะใช่เรื่อง หากแต่เมื่อเห็นกลุ่มเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่ได้คุย ได้รับกำลังใจ ได้รับคำแนะนำ คำสั่งสอนดีๆจากลีดเดอร์
แล้วมันก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้

ใจร้ายชะมัดเลยพี่น้องแทยง


เอาเถอะนาแจมินจะไม่คิดไปพยายามคุย
หรือหาเรื่องเรียกร้องความสนใจให้แทยงต้องปวดหัว
เพราะแจมินอยากเป็นน้องชายที่น่ารักของแทยงเสียเมื่อไหร่กัน

“หาอะไรหรอ ให้ช่วยมั้ย?”
“ไม่ครับ!”ปฏิเสธเสียงแข็ง พร้อมกับผละกายสูงโปร่งออกจากบริเวณโซฟาภายในห้องพักศิลปิน นาแจมินคิดว่าตัวเองควรรีบเดินกลับไปขึ้นรถตู้พร้อมกับเจโน่ซะมากกว่ามัวแต่มาหาของไร้สาระนี่แล้วยังต้องเจอแทยงอีกต่างหาก ทำราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นธาตุอากาศ 

ไม่เชิงอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อแทยงในใจ ไหนบอกบอกว่ารักเมมเบอร์นักหนาไง อยู่ด้วยกันสองคนเวลานี้แล้วทำไมไม่คิดจะชวนคุยหรือพูดอะไรสักอย่าง

“อ่า...อันนี้หรือเปล่า?”ทันทีที่ยื่นสิ่งของขนาดเล็กมาจ่อตรงหน้าแจมิน 
ดวงหน้าน่ารักก็เกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ่งใบหน้าหล่อปนหวานที่กดหัวคิ้วขมวดจ้องมองตนเองอยู่นั้น ยิ่งแทบอยากจะหดให้ตัวลีบทั้งที่ความจริงคนผิดไม่ใช่แทยงเสียหน่อยเด็กบ้านั่นต่างหาก

“ครับ ผมกลับก่อนนะ”คว้าวัตถุต้องสงสัยที่อัดไปแน่นไปด้วยน้ำมัน พกไฟแชคอย่างนั้นสินะ
เพราะอยากรีบปกปิดความผิดนาแจมินจึงตัดสินใจหมุนตัวหนีไปอย่างทุกที
เป็นแบบนี้เสมอ
ความอึดอัดระหว่างเรา
แต่สำหรับแจมินมันคือความผิดที่ถูกคนพิเศษจับได้เท่านั้นเอง


“สมน้ำหน้าเราบอกแจมินกี่รอบแล้วว่าไม่ให้สูบบุหรี่ ถ้าแทยงฮยองรู้แล้วก็บอกเมเนเจอร์งานนี้เราไม่ช่วยแน่”ไม่รู้น้ำเสียงจงเกลียดจงชังนั่นหรือเพราะอะไรก็ทำให้แจมินหลุดขำด้วยความเอ็นดูหนึ่งสิ่งที่เจโน่เรียนรู้มาจากพี่น้องแทยงก็คงเป็นความดุแต่ขู่ฟ่อๆเหมือนลูกแมวละมั้ง

หากเพียงหมุนกายสูงออกมาเดินเล่นละแวกหอก็ใช้ชีวิตเป็นนาแจมินผู้ที่ไม่ได้ทำตัวติดกับเจโน่ นาแจมินผู้ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะกับดงฮยอค ไม่ใช่นานะฮยองคนใจดีของใครๆ
เป็นเพียงเด็กผู้ชายนาแจมินที่คิดไม่ตกเรื่องลีแทยง

กระป๋องเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ถูกหยิบยกขึ้นดื่มเพียงรวดเดียวแต่พร่องไปเกือบครึ่งม่านตาโตอีกทั้งใบหน้าหล่อปนหวานเผยให้เห็นแต่ความเฉยชา 

แจมินไม่ได้รู้สึกแย่แค่อยากหลบมานั่งสงบจิตสงบใจอยู่ม้านั่งหน้าหอพัก

เป็นประจำที่มีอำไรทำให้รู้สึกกวนใจ ก็แค่มองผ่าน ไม่ใส่ใจ แต่กับแจมินไม่ใช่
ยิ่งเป็นแทยงแล้วจะให้ไม่ใส่ใจก็คงเป็นไปไม่ได้ 

หลับตาลงเพียงเพื่อหวังว่าใบหน้าน่ารักนั่นแวบหายไปจากความคิดบ้างเพียงครึ่งนาทีก็คงดี ไอ้อาการอึดอัดที่ดูเหมือนจะมีเพียงเค้ากับแทยงเท่านั้น
“แจมิน”ราวกับฟุ้งซ่านหนักกว่าเดิมเพราะได้ยินน้ำเสียงของคนที่วนอยู่ในความคิดดังสะท้อนเข้ามาเสียได้ ท่าทางไอ้คำว่าคิดถึงจนเป็นบ้า
ก็คงจะจริงอย่างเค้าว่าล่ะสินะไอ้แจมินเอ้ย

“แจมิน พี่นั่งด้วยได้มั้ย?”

“แทยง ฮ..ฮยอง”ก็บอกแล้วว่าให้เรียกพี่แบบนั้นมันไม่ชิน 
ได้ยินเสียงบีบกระป๋องเบียร์รีบหลบมันไว้ด้านข้างอีกทั้งก้านนิ้วเรียวที่โยนแท่งนิโคตินให้ร่วงหล่นลงบนพื้นพร้อมกับใช้ส้นรองเท้าเหยียบดับไฟเบาๆ ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่ทันเพราะลีแทยงเห็นหมดแล้วก็ตามเถอะ นึกอีกทีก็ดีเหมือนกันจะได้รู้กันสักทีว่าแจมินคนนี้โตแล้ว

ไม่มีผู้ใดทำลายความเงียบด้วยการเริ่มต้นบทสนทนาอีก มีก็เพียงใบหน้าหล่อที่เสตามองนั่นนี่ไปเรื่อยหากแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาวางสายตาไว้ที่รุ่นพี่ตัวเล็กข้างๆ

“อึดอัดหรอ?”
“พี่ทำให้นายอึดอัดใช่มั้ย? ขอโทษนะ”

“เปล่าครับ”พี่ต่างหากแทยงที่อึดอัดกับผม นัยน์ตาดำขลับกำลังเอื้อนเอ่ยประโยคในใจแต่คนตัวเล็กกว่า แน่ละหน้าขาวๆ ตาปรือๆ แบบนั้นจะไปรู้เรื่องอะไร

“แต่พี่อยากสนิทกับนายนะ อยากสนิทกับนายแบบที่สนิทกับเด็กๆพวกนั้นมาร์ค ดงฮยอค อินจุนหรือว่าน้องเจโน่”


อยากสนิทไม่ต่างจากรุ่นน้องคนอื่น?
แบบนั้นนาแจมินไม่อยากสนิทด้วยหรอก


ไม่มีบทสนทนาใดเอื้อนเอ่ยขึ้นมาอีกเพียงแค่สบจ้องใบหน้าหล่อปนหวานลีแทยงก็ชะงักกึก เรียบเฉยและคล้ายกำลังแผ่รังสีน่ากลัวบางอย่าง หัวใจเต้นระส่ำเสียจนแทยงกลัวว่าจะทำให้รุ่นน้องที่นั่งข้างๆรับรู้เสียได้

“สูบบุหรี่ด้วยหรอ? เครียดเรื่องอะไรทำไมต้องถึงต้องดื่มเบียร์ล่ะนายยังเด็กอยู่นะถ้าเกิดว่ามีคนมาเห็นจะทำ..

“เลิกพูดได้หรือยัง”คดีพลิกกลับกลายเป็นจำเลยเสียอย่างนั้น แทยงพยายามกดใบหน้าลงต่ำหากแต่ทว่าเรียกความสนใจจากรุ่นน้องในวงได้ดีกว่าเดิม แทยงอาจจะแค่รู้สึกน้อยใจที่สุ้มเสียงแตกหนุ่มนั่นตะโกนสั่งให้หยุดพูดแต่พอนึกอีกทีตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่แจมินก็ไม่เคยก้าวร้าวอย่างนี้

“แจมินที่พี่พูดเพราะว่านายยังเด็กนะแล้วก็อีกอย่าง”เสียงลมหายใจฟึดฟัดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มความสูงยกมือสางกลุ่มผมตัวเล็กอย่างลวกๆก่อนจะสาวเท้าเดินกลับเข้าไปยังพื้นที่ของตนเอง ไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ 

จะว่ารุนแรงก็คงไม่ถูกเพราะแจมินไม่ได้ใช้ถ้อยคำหยาบคายทั้งที่ไม่ใช่การตวาดใส่แต่กลับทำให้ความหวาดหวั่นพรั่นพรึงก่อตัวอย่างง่ายดาย นาแจมินเข้าถึงยากเกินไปแล้วต่างหาก เย็นชา นิ่งเฉย น่ากลัวเสียจนดุดัน มันคงเป็นความรู้สึกยากเกินอธิบาย


ถือวิสาสะเดินตามเข้ามายังห้องส่วนตัวเพื่อคาดหวังว่านาแจมินจะให้คำตอบอะไรได้ดียิ่งกว่าการเดินหนี

“ถ้านายไม่พูดพี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไร นายเอาแต่ทำตัวแปลกๆไม่อยากใกล้พี่ รังเกียจหรือว่าโกรธอะไรพี่ก็พูดออกมาสิ เลิกทำนิสัยเด็กแบบนี้สั...อื้อออ”แก้มนุ่มนิ่มถูกฝ่ามือหนาประครองก่อนจะบดเบียดเรียวปากช่วงชิง รุกล้ำ รุนแรง เร่าร้อนราวกับจะกลั่นแกล้งกันให้ตาย กอบโกยความหวานโดยเคล้นคลึงกลีบปากอิ่ม

ดูดกลืนเก็บกินพร้อมกับรสชาติแอลกฮอลล์ที่ยังคละคลุ้งไปทั่วโพรงปากเล็ก 
แทยงไล้จับไหล่กว้างของคนตัวสูงกว่าเอาไว้แทบไม่ทัน เร่งเร้าเอาแต่ใจเสียจนตามไม่ทันกว่าจะยอมโอนอ่อนให้ได้พักหายใจก็เล่นเอาเหนื่อยหอบจนตัวโยน 
ทอดสบแววตานิ่งที่จ้องมองอยู่ก่อนอย่างคาดเดาไม่ออก


นาแจมินกำลังคิดจะทำอะไรกับหัวใจดวงนี้กันแน่
ก้อนเนื้อด้านซ้ายที่เต้นรัวราวกับท้าทายให้อีกฝ่ายโน้มตัวเข้าไปใกล้ แววตาเคลือบใสสั่นระริกยามสันจมูกโด่งกดลงบนเนื้อข้างแก้มก่อนจะกลับมาย้ำที่กลีบปากบวมเจ่อ

“ถ้าพี่บอกว่าผมเด็กอีกแค่ครั้งเดียว ผมไม่หยุดแค่จูบแน่”ได้ยินเสียงทุ้มต่ำแหบพร่ามือไม้ที่ไร้เรี่ยวแรงก็แทบอ่อนปวกเปียก รู้สึกตัวอีกทีเมื่อท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดช่วงเอวรั้งเสื้อเชิ้ตลงจนเห็นลาดไหล่ขาว ไล้สันจมูกโด่งพร้อมกับใบหน้าหล่อปนหวานโน้มเข้าประทับริมฝีปากบนผิวเนื้อเนียนขบเม้มเบาๆจนเกือบจะกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ไหว 

ทอดมองแทยงด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกอีกครั้งก็แทยงในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย 
ปากบวมเจ่อ ตัวก็เล็กนิดเดียวแบบนั้น .. พี่น้องแทยงชัดๆ

“พ พอแล้ว!”ขยับกลีบปากสีชมพูเอ่ยพึมพำให้ได้ยิน เจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานก็กระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู

“พอก็ได้แต่พี่ต้องเลิกบอกว่าผมเด็กแล้วก็เลิกทำตัวอึดอัดใส่ผมสักที”เท่านี้หัวใจก็แทบจะเป็นบ้าตายเพราะลีแทยงอยู่แล้ว หากแต่ต้องให้เมินเฉยใส่กันอีกแจมินคนหนึ่งนั่นแหละที่ต้องเป็นบ้าเข้าให้จริงๆ

“สะ สัญญา”
“ให้ตายเถอะแทยง”ทำไมน่ารักอย่างงี้วะ

ถ้าแจฮยอนไม่อยากได้แจมินคนหนึ่งนี่แหละที่อยากได้


เกลี่ยนิ้วไล่แก้มนุ่มเล่นอย่างสนุกมือพอได้อยู่ใกล้แบบนี้แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าอึดอัดตรงไหน

“เรียกพี่สิ พี่เป็นพี่นะ”

“พี่น้องแทยง?”

“หยุดแกล้งพี่สักที”

“พี่ก็หยุดน่ารักก่อนดิ”
ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างตัวเองด้วยความประหม่า กดใบหน้าลงซ่อนรอยยิ้มน่ารักเอาไว้พยายามสะบัดกายเล็กให้หลุดจากอ้อมแขนแข็งแรงเพราะรู้สึกถึงระยะห่างที่ลดลงทุกที 
บทจะร้ายก็อันตรายชะมัด

“ปล่อยได้แล้วน่า”ได้ยินเสียงกระซิบข้างใบหูขายวว่าขออีกนิดราวกับสะกดจิตให้โอนอ่อนตาม ราวกับกำลังหว่านล้อมให้ลูกแมวน้อยติดกับเสือหนุ่มสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆเป่ารดบริเวณซอกคอให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก 

ทว่ายังไม่ได้ทันได้หาเศษหาเลยเสียงระดมทุบประตูดังลั่น
จนแผ่นหลังเล็กสะเทือนตามไปด้วย

“แทยงฮยอง!!! ไอ้เชี่ยแจมินมึงออกมาเคลียร์กับกูเดี๋ยวนี้เลย!”เสียงตะโกนดังลั่น
แบบไม่ต้องสงสัยผู้ฟังก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนมาใหม่คือใคร ฝากไว้ก่อนนะจองแจฮยอน




****ฝากสกรีมได้ในแฮชแทค #พี่น้องแทยงแจมยง เฉพาะกิจมากค่าาาา เยิ้ฟฟฟ ~