ฝ่ามือร้อนสอดเข้าใต้เสื้อก่อนจะลูบไล้ตามส่วนเว้าโค้งของร่างกายเจโน่อย่างเบามือ
เบามือกว่าการเชื่อมเหล็กแน่ๆ แต่ก็กลับทำให้ใครอีกคนโอนอ่อนได้ไม่ยาก
ก่อนที่เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“อ๊ะ!”“เผลอส่งเสียงครางออกมาเมื่อสิ่งที่ถูกเล้าโลมที่จุดอ่อนไหวตรงหน้าอกทั้งสองข้างจนเรียกให้ต้องเหล่ตามองแม้จะรู้สึกเขินอาย
ไม่รู้ทำไมถึงไม่บอกให้มาร์คลีหยุดการกระทำเหล่านั้น แต่กลับเม้มปากเพื่อสะกดกลั้นเสียงคราง เสียเอง
มาร์คยิ้มให้กับกริยาตอบรับของคนตรงหน้า
พลางจูบไล่ตั้งแต่หน้าท้องไปจนถึงคางมนของคนตัวเล็ก
ก่อนจะก้มลงไปจูบที่ดวงตาเรียวนั่นอย่างแผ่วเบา นอกจากร่างกายที่ไม่ปกติในตอนนี้
ยอมรับได้อย่างเต็มปากว่า
‘หัวใจก็ไม่ปกติเช่นกัน’
“ได้มั๊ยครับเจโน่”ปลายจมูกที่ชนกันพร้อมกับคำพูดแสนหวานดวงตาที่มองสบตากันอย่างมีความหมายมันทำให้ลีเจโน่คนนี้แทบหลอมละลายลงซะตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
ให้ตายเถอะมาร์คลีกำลังขออนุญาตหรือกำลังจะฆ่าเค้าทางอ้อมกันแน่
ลีมินฮยองในโหมดอ่อนโยนนี่มัน.....น่ารักเป็นบ้า
“ขนาดนี้แล้วจะให้ตอบยังไงเล่า”สายตาอ้อนวอนกับคำพูดที่ไม่เคยขอร้องอะไรเจโน่เลยสักครั้ง
ทุกอย่างที่เป็นมาร์คลีตอนนี้มันกำลังทำเจโน่ใจอ่อน ..
“เจโน่
.. รักว่ะ”
หลังจบประโยคบอกรักอันหวานซึ่งมันอาจจะหวานซึ้งที่สุดในแบบฉบับคนอย่างมาร์คลีแล้วก็ได้ริมฝีปากของทั้งคู่ก็เลื่อนเข้าหากันอีกครั้งมาร์คขยับตัวแทรกกลางหว่างขาเรียวของอีกคนก่อนจะบดเบียดสะโพกเบาๆ
มาร์คทำทุกอย่างด้วยความค่อยเป็นค่อยไป .. อย่างน้อยๆครั้งแรกของเราก็ขอให้ได้มองใบหน้าน่ารักนี้นานๆ
“อื้อ..อย่าแกล้ง”เมื่อรู้ว่ามือหนาที่กำลังสาละวนกับส่วนอ่อนไหวอย่างอ้อยอิ่งก็เผลอครางต่ำเรียกให้คนฟังอย่างมาร์คอมยิ้มให้
.. เซกซี่ชิบหาย
เป็นคำจำกัดความเดียวของเด็กสถาปัตย์ตัวน้อยในเวลานี้
ไม่ว่ามือเล็กที่กำลังช่วยมาร์คดึงกางเกงหรือไม่ว่าจะเป็นใบหน้าน่ารักที่เห่อแดงอย่างที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน
อะไรตอนนี้มันล้วนผูกมัดให้ผู้ชายอย่างมาร์คลี ถอนตัวไม่ขึ้น.. มือหนารูดรั้งแกนกายขึ้นลงเบาๆก่อนจะใช้นิ้วแตะส่วนปลายให้ได้เสียวซ่านเล่น
“อื้อ มะ มาร์คอ่า
มาร์ค”ตั้งแต่เกิดมามาร์คก็พึ่งรู้ว่าชื่อตัวเองโคตรน่าฟังก็ตอนนี้แหละ
มาร์คยังคงทำหน้าที่ใช้มือขยับรูดรั้งขึ้นลงตามจังหวะ
“ครับ..”อยู่ๆคนที่ถูกเรียกชื่อก็หยุดการกระทำลงเสียอย่างนั้น .. ไอ่บ้ามาร์ค
ไอ่คนนิสัยไม่ดี
ก่อนที่จะรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อนิ้วเรียวพยายามสอดเข้าไปช่องทางที่อาจจะทำให้จิตใจของเจโน่เตลิดเปิดเปิงได้ในตอนนี้
“อ่ะ อื้ออ จะเจ็บ”
เจโน่สะดุ้งจนตัวโยนเมื่อตอนที่นิ้วแรกเริ่มแทรกเข้ามา ความรู้สึกแปลกๆที่เป็นความเจ็บถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน
ไม่รู้ว่ามันรู้สึกดีหรือไม่ดี แต่ตอนนี้คงหยุดไม่ได้แล้ว...
“ไม่เกร็งนะ”
คำปลอบประโลมที่ดังซ้ำๆ อยู่ข้างหูทำให้เจโน่พยักหน้าตามพร้อมกับผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆตามที่มาร์คบอก
ก่อนจะแยกเรียวขาขาวออกจากกันพร้อมกับยกขึ้นตั้งฉากก่อนจะกดแกนกายเข้าช่องทางสีสวยคับแน่นคนตัวสูงก้มใช้ใบหน้าหล่อคลอเคลียบริเวณซอกคอขาวอย่างออดอ้อน
“อืมมม เจโน่อ่า”ได้โปรดอยากเรียกชื่อเค้าแบบนั้น
ขอร้องในเวลานี้เจโน่แทบไม่มีสติ ถ้าเหล้าทำให้เมาจริงตอนนี้มาร์คทำให้เค้าเมายิ่งกว่าอะำไรทั้งหมด
สายตาที่ได้มองกันแบบนั้น .. ความรู้สึกที่บอกกับหัวใจทั้งสองดวงว่า
รักจนถอนตัวไม่ขึ้น
“อืมมม...เจโน่อ่าาา อ่าาา”เจโน่ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเปลือกตาขึ้นมองว่าตอนนี้ร่างสูงที่อยู่ด้านบนจะเร่าร้อนมากแค่ไหนเพราะแค่เสียงที่ได้ยิน...
หัวใจมันก็เต้นโครมครามจนห้ามไม่อยู่แล้ว
แต่เมื่อถูกกระซิบลงที่ข้างใบหูขาวพร้อมกับขบเม้มเบาๆก็ทำให้ต้องลืมตามองไ้ด้ไม่ยาก
“อ๊ะ...อ๊ะ...มะ...มาร์ค มาร์ค อื้มมม”
นั่นคงเป็นเสียงเรียกที่เพราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาเจโน่โคตรน่ารัก
และโคตรเก่งที่ทำให้เค้าสามารถตกหลุมรักได้มากขนาดนี้
“อีกนิด .. อืมมม ขออีกนิดเดียวนะเจโน่ อ๊า
!!!! ” มาร์คกระแทกแกนกายเข้าไปจนมิดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มช่องทางรักของอีกคนก่อนที่เสียงหายใจหอบถี่จากคนตัวเล็กเรียกให้ต้องตระกรองกอดเอาไว้แนน
ความรู้สึกอึดอัดจนตัวแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆแต่เพราะปากที่พรมจูบซับเหงื่ออยู่บนใบหน้า
พร้อมกับคำปลอบประโลมที่พร่ำบอกอยู่ข้างหู กลับทำให้เจโน่รู้สึกอย่างประหลาด
ค่ำคืนนี้เค้าได้ยินมาร์คพูดว่า “รัก”
ซ้ำๆอยู่ข้างใบหูอยู่แบบนั้น
ใบหน้าน่ารักซุกลงที่อกแกร่งแน่นก่อนที่เปลือกตาสีน้ำนมจะค่อยๆปิดลงพร้อมกับคนตัวเล็กที่เข้าสู่ห้วงนิทราโดยง่าย
..
พรุ่งนี้ค่อยตื่นขึ้นมาฟังคำว่า
รัก แล้วกันนะมาร์คลี